วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตำรวจคุมบ่อน (๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓)

สวัสดีครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา รายงานตัวครับผม

วันนี้วันพุธขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๘ หลัง ปีขาล รัตนโกสินทรศก ๒๒๙ ตรงกับวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พุทธปรินิพพานล่วงแล้ว ๒๕๕๓ ปี กลางสัปดาห์แล้วรวมถึงอยู่ช่วงท้ายๆ เดือนอีกด้วย เร็วจริงๆ กาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป ฉะนั้นแล้วใครมีอะไรที่ต้องทำก็จงรีบๆ ทำเสียโดยไวอย่าให้เนิ่นช้าเสียการขึ้นได้นะขอรับ

เมื่อวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๘ หลังที่ผ่านมาผมนำเรื่องราวของตำรวจสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ เรื่องกำชับให้ตำรวจงดเว้นการกระทำอันอาจทำให้เข้าใจว่าไม่สุภาพกับชาวต่างประเทศมาเล่าให้ฟังและทิ้งท้ายว่าวันนี้จะนำเรื่อง "ตำรวจคุมบ่อน" มาให้อ่านกัน ก็ตามสัญญาครับ สัญญาแล้วไม่คืนคำแน่ๆ จึงขอนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังในวันนี้

เห็นจั่วหัวเรื่ืองแล้วน่าตกใจนะครับเนี่ย "ตำรวจคุมบ่อน" ใคร ตำรวจคนไหน คุมทำไม ไม่อายศักดิ์ศรี เกียรติยศ ชื่อเสียงทั้งของตัวเองและตำรวจบ้างเลยหรือ?? หรือคุมแล้วจะได้อัฐซักกี่เฟื้องกี่ไพกัน นี่ หลายคนคงจะคิดเยี่ยงนี้ ผมก็คิด ยุคนี้ยังมีอยู่อีกเหรอ ผมว่านะถ้าใครลองริทำขึ้นมาแล้วถูกจับได้แลพิจารณาได้ความเป็นสัตย์ผู้บังคับบัญชาท่านคงไม่เลี้ยงไว้ให้เปลืองข้าวสุกข้าวสารแน่ๆ อย่างน้อยก็ต้องออกจากตำรวจ ดีไม่ดีถูกดำเนินคดีอาญาหมดอนาคตกันไปเลยก็ได้

แต่เรื่อง "ตำรวจคุมบ่อน" ที่ผมจะเล่าให้ฟังวันนี้มีจริงๆ ครับ การคุมก็ชอบด้วยกฎหมายซะด้วยนะเออ "บ้าแล้ว เพี้ยนแล้ว เป็นไปได้ไง??" หลายคนคงจะคิดแบบนี้อีกแน่ แหม ไม่บ้าและก็ไม่เพี้ยนหรอกครับ ผมยังสติสัมปชัญญะดีอยู่ จับหัวตัวเองก็ไม่ร้อนซะด้วย จริงๆ ตำรวจคุมบ่อนมีจริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ นู่น แล้วการคุมที่ว่าชอบด้วยกฎหมายเนี่ยเป็นพระบรมราชโองการเลยนะครับ ขอบอก เชื่อหรือไม่ ถ้าไม่เชื่อ...อ้า ผมมีหลักฐานมาแสดง แล้วหลักฐานเนี่ยะก็เหมือนเดิมครับเอามาจากราชกิจจานุเบกษานั่นแล โดยเรื่องนี้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ มีใจความดังนี้

ประกาศใ้ห้เลิกบ่อนเบี้ยใหญ่ ๑๐ ตำบล

สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ อธิบดีพระคลังมหาสมบัติ รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สั่งว่าเมื่อ ณ ปีกุน นพศก ทรงพระราชดำริห์เห็นว่า การเล่นพนันต่างๆ ซึ่งชาวสยามเคยเล่นเปนการสนุกแลแข่งขันพนันกันด้วยทรัพย์สมบัติพัสดุเงินทองต่างๆ นั้น ที่เปนการพนันของชาวสยามแท้ก็มีแต่วิ่งม้า วิ่งวัว ชนนก ชนไก่ ชนปลาแลไพ่ต่างๆ เหล่านี้เปนต้น การเล่นโปถั่วนั้นเปนวิชาพนันของจีน พวกจีนพากันเข้ามาพึ่งพระบรมเดชานุภาพ อาไศรยทำมาหากินอยู่ในกรุงสยามได้ความผาศุก หากินอยู่ตามภูมิลำเนาแล้วพากันถือการเล่นโปถั่วซึ่ีงเปนวิชาถนัดของตนขึ้น ชักชวนคนไทยให้หลงเล่นไปด้วย ทำให้เปนการเสียทรัพย์สินเสียเวลา เสียประโยชน์การค้าขาย แลทำให้สันดานหมกมุ่นไปในสิ่งซึ่งหาประโยชน์มิได้ เปนการร้ายยิ่งกว่าการเล่นซึ่งชาวสยามเคยเล่นกันมา เพราะฉะนั้นโปถั่ววิชาของจีนนี้เปนวิชาอุปเทห์ที่มาชวนคนไทยให้เสียประโยชน์ ในจำนวนปีกุนนพศกนั้น ในแขวงกรุงเทพฯมีโรงบ่อนใหญ่น้อยตั้งเล่นโปถั่วอยู่ในถนนใหญ่น้อยแลละแวกกรอกลำน้ำลำคลองต่างๆ ๔๐๓ ตำบล จึ่งทรงพระราชดำริห์ว่าการพนันคือโปถั่ววิชาของจีนซึ่งเห็นว่าเปนของชั่ว ชวนชาวสยามให้ประพฤติตนเปนนักเลงหลงเล่นอยู่ ทำให้เสียประโยชน์นี้ควรจะผ่อนผันห้ามปรามเสียให้น้อยเบาบางจนเลิกเสียทั้งสิ้นได้โดยความเรียบร้อย แต่ครั้นจะห้ามปรามให้เปนการเด็ดขาด ใ้ห้เลิกเสียทีเดียวในขณะเดียว พวกจีนซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมเดชานุภาพอาไศรยทำมาหากินอยู่ในกรุงสยาม เคยประพฤติชอบเล่นโปถั่วซึ่งเปนการพนันสำหรับชาติอยู่จะให้ความร้อนลำบาก อาไศรยพระราชดำริห์ซึ่้งทรงพระเมตตากรุณาแก่หมู่ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน เพื่อจะมิให้ชาวสยามริเปนนักเลงหลงเล่นการพนันโปถั่วเพลินไปให้เสียประโยชน์ แลมิให้เปนที่เดือดร้อนแก่พวกจีนซึ่งเข้ามาพึ่งพระบรมเดชานุภาพอาไศรยทำมาหากินอยู่ในกรุงสยามได้ความเดือดร้อน

จึงได้มีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสีหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่้งให้สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กรมพระจักรพรรดิพงษ์ อธิบดีพระคลังมหาสมบัติมีรับสั่งให้เจ้าพนักงานกรมพระคลังสินค้าไปกะที่โรงบ่อนซึ่งเล่นโปถัวอยู่ในแขวงกรุงเทพฯ ให้คงไว้เปนที่เล่นของพวกจีนนักเลงซึ่งเคนเล่นบ้างพอสมควร นอกนั้นห้ามให้เลิกเสียมิให้เล่นต่อไป คือบ่อนที่ตั้งเล่นอยู่ ณ ตำบลต่างๆ ๔๐๓ ตำบลนั้นให้คงเล่นอยู่แต่ ๖๗ ตำบล ใ้ห้เลิกเสีย ๓๓๖ ตำบล การเลิกบ่อนที่ได้จัดเลิกไปแล้วนั้นเปนอันเรียบร้อยตามพระราชราชดำริห์ตลอดเวลา จึ่งทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกตำบลบ่อนที่คงตั้งเล่นในแขวงกรุงเทพฯ จำนวนปีชวด สัมฤทธิศก ๖๗ ตำบล ซึ่งสมควรจะผ่อนเลิกได้นั้นอีก ๑๐ ตำบล ให้คงตั้งเล่นในแขวงกรุงเทพฯ จำนวนรัตนโกสินทรศก ๑๐๘ เพียง ๕๗ ตำบล การที่ทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผ่อนเลิกอีกนี้ก็เปนที่เรียบร้อยไม่เปนเหตุเดือดร้อนอย่างใดแก่พวกจีนที่เข้ามาพึ่งพระบรมเดชานุภาพซึ่งเคยประพฤติชอบเล่นโปถั่วเปนการพนันสำหรับชาติ

บัดนี้ทรงพระบรมราชดำริห์ว่าตำบลบ่อนซึ่งทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ให้คงตั้งเล่นในแขวงกรุงเทพฯ จำนวนรัตนโกสินทรศก ๑๐๘ รวม ๕๗ ตำบลนั้น ในจำนวนรัตนโกสินทรศก ๑๐๙ ควรจะลดหย่อนผ่อนเลิกลงได้อีก ๑๐ ตำบล คือยกบ่อนตำบล ๑ สี่แยกบางซื่อ ๒ ดาวคนอง ๓ บางน้ำชน ๔ โรงม้า ๕ แพลอยน่าวัดชนะสงคราม ๖ วัดราชบูรณ ๗ บ้านบาตร ๘ สวนมลิ ๙ บางเชือกหนัง ๑๐ ศาลเจ้าเนียเกง

จึ่งมีพระบรมราชโองการมานพระบัณฑูรสุรสีหนาทดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งให้พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจาตุรนตรัศมี กระพระจักพรรดิพงษ์ อธิบดีพระคลังมหาสมบัติมีรับสั่งให้่เจ้าพนักงานกรมพระคลังสินค้าบังคับสั่งให้พวกจีนคงตั้งเล่นอยู่ในจำนวนรัตนโกสินทรศก ๑๐๙ แต่ ๔๗ ตำบลคือตำบลสามเพง มาเกง อ่าว ตลาดเข้าสาร ศาลเจ้าจีนเกงเอียะ ตพานเหล็กศาลเจ้าเก่า ลงบ่วยเอียะ ตลาดน้อย เซียนกง วัดแก้วฟ้า บ้านทวาย ท้ายถนนตก วัดสามจีน วัดสามง่าม ตพานหัน สามเสน นอกกำแพง บางโพ บางกรวย ตลาดขวัญ คลองเตวด บ้า่นกระแชง สี่แยกบางเขน บา่งลำภู คลองจั่น บ้านหม้อ ท่าพระ บางกอกใหญ่ ซินกัง บางขุนเทียน บ้านลาว บางกอกน้อย ตพานหก วัดอรุณ บ้านขมิ้น บางระมาด วัดไชยพฤกษ์ บางคูเวียง เสาชิงช้า บางราชบูรณะ บางยี่ขัน ท้องน้ำน่าเก๋ง บางรัก ริมโรงหวย วัดสระเกษ ท่าเตียน บ่อนที่ให้เลิกเสียอีก ๑๐ ตำบลนั้นต่อไปห้ามมิให้เล่นเปนอันขาด

แลโรงบ่อนซึ่งอนุญาตให้คงเล่นเคยตั้งเล่นอยู่ที่สถานใดก็ให้ตั้งเล่นอยู่ในที่นั้น มิให้ย้ายแขวงย้ายตำบลไปได้ กำหนดให้เปิดการเล่นแต่เวลาโมงเช้าจนถึงเวลา ๕ ทุ่ม แลเวลาที่เล่นนั้นให้มีโปลิศประจำอยู่ทุกบ่อน เพื่อมิให้จีนเจ้าของบ่อนทำความบังอาจล่วงเกินสิ่งใดแต่โดยอำนาจของเจ้าของบ่อนนั้น การที่จะจัดให้เิลิกโรงบ่อนนี้กำหนดจะได้ลงมือแต่ ณ วันที่ ๑ เมษายน รัตนโกสินทรศก ๑๐๙ แลต่อไปนั้นถ้าถึงวันกำหนดแล้ว ผู้หนึ่งผู้ใดบังอาจเล่นการพนันโปถั่วในที่ห้าม คือที่ใ้ห้เลิกเสียฤาในที่ไม่ได้อนุญาตให้เล่น จับตัวได้พิจารณาเปนสัตย ให้ลงโทษตามพระราชกำหนดกฎหมาย

ประกาศ มา ณ วันที่ ๕ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘ เปนวันที่ ๗๖๙๕ ในรัชกาลปัตยุบันนี้

ตอนนี้เชื่อหรือยังครับว่า "ตำรวจคุมบ่อน" น่ะมีัจริงๆ ผมไม่ได้บ้าหรือเพี้ยนซะหน่อย

แต่อย่างไรก็ตามนั่นคือเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตกาลที่ผ่านมาซึ่งสถานการณ์ของแต่ละยุคแต่ละช่วงจะไม่เหมือนกัน สมัยนี้ไม่มีเรื่องราวลักษณะนี้แล้วรวมถึง "ตำรวจคุมบ่อน" ด้วย แต่หากท่านใดพบเห็นหรือรู้เบาะแสข้อมูลว่ามีตำรวจคนไหนริกระทำการเยี่ยงนี้โปรดแจ้งผู้บังคับบัญชาหรือใครก็ได้ที่ท่านไว้วางใจด้วยนะครับเพื่อช่วยกันขจัดพวกนอกแถวนี้ออกไปให้หมดเสียจากวงการ

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น