สำหรับแนวคิดที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบมีดังนี้
๑. ให้มีจิตสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพื่อให้ประชาชนศรัทธาและเชื่อมั่น ซึ่งต้องประพฤติปฏิบัติ ดังนี้
(๑) มีท่าทีเป็นมิตร มีมนุษยสัมพันธ์อันดี และมีความสุภาพอ่อนโยนต่อประชาชนผู้รับบริการ รวมทั้งให้บริการประชาชนด้วยความเต็มใจ รวดเร็ว และไม่เลือกปฏิบัติ
(๒) ปฏิบัติตนให้เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของประชาชน ไม่เบียดเบียน ไม่แสดงกริยาหรือท่าทางไม่สุภาพหรือไม่ให้เกียรติ รวมทั้งไม่ใช้ถ้อยคำ กริยา หรือท่าทาง ที่มีลักษณะหยาบคาย ดูหมิ่น หรือเหยียดหยามประชาชน
(๓) เอื้อเฟื้อ สงเคราะห์ และช่วยเหลือประชาชนเมื่ออยู่ในฐานะที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ หรือประสบเคราะห์จากอุบัติเหตุ การละเมิดกฎหมาย หรือภัยอื่น ๆ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำผิดกฎหมายหรือไม่
(๔) ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของทางราชการอย่างเคร่งครัด การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนที่ร้องขอ ต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็วไม่ถ่วงเวลาให้เนิ่นช้า และไม่ให้ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จแก่ประชาชน
๒. ให้หมั่นศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อพัฒนาตนเองให้ทันโลกทันเหตุการณ์ และมีความชำนาญการในงานที่อยู่ในความรับผิดชอบ รวมทั้งต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ ธรรมเนียมการปฏิบัติของส่วนราชการในกระบวนการยุติธรรม เช่น ฝ่ายอัยการ ศาล ราชทัณฑ์ และกระทรวง ทบวง กรมอื่น ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และความรับผิดชอบของตน เพื่อสามารถประสานงานได้อย่างกลมกลืนแนบเนียน และเป็นประโยชน์ต่อราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
(ที่มา : ส่วนหนึ่งของประมวลจริยธรรมและจรรยาบรรณของตำรวจ พ.ศ.๒๕๕๑)
ในส่วนของภารกิจที่แจ้งและมอบให้เจ้าหน้าที่ผลัดนี้ปฏิบัติมีดังนี้
๑. การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจสายตรวจเราซึ่งแต่งกายในเครื่องแบบจะต้องอยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชนโดยตลอดทั้งนี้เพื่อความอุ่นใจแก่สุจริตชนในขณะเดียวกันก็เป็นการป้องกันหรือระงับการกระทำผิดของทุจริตได้ในทางอ้อมที่หากคิดจะกระทำผิดเมื่อเห็นตำรวจแล้วส่วนใหญ่จะล้มเลิกการกระทำนั้นๆ ไปโดยปริยายทำให้สังคมสงบสุขได้ส่วนหนึ่ง ดังนั้น การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจะต้องยึดหลักการนี้ไว้ให้เหนียวแน่นมั่นคง
๒. การปฏิบัติตามข้อ ๑. นั้นมีผู้ใช้คำว่าทฤษฎีปรากฏกายซึ่งไม่ว่าที่ใดก็ตามในโลกนี้ตำรวจส่วนใหญ่มักจะนำมาปฏิบัติ
๓. การปรากฏกายให้พี่น้องเห็นเด่นชัดขณะปฏิบัติหน้าที่นั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้ององอาจ สง่าผ่าเผยรวมถึงปฏิบัติต่อพี่น้องอย่างเป็นมิตร
๔. ขณะปฏิบัติหน้าที่หากมีสิ่งใดที่เป็นสิ่งบ่งบอกว่าจะเกิดอันตรายต่อพี่น้องประชาชนขอให้ให้คำแนะนำพี่น้องด้วย เช่น การจอดยานพาหนะไว้โดยไม่มีผู้อยู่ดูแลใกล้ชิด,จอดโดยไม่ล็อกคอหรือเสียบลูกกุญแจรถค้างไว้ เป็นต้น
๕. เวลากลางคืนให้เน้นการปฏิบัติที่ร้านอาหาร/สถานบริการ,ร้านเกม/อินเตอร์เน็ตให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเคร่งครัดด้วย
๖. ระยะนี้อาจจะมีการจับกลุ่มรวมตัวของวัยรุ่นได้ในหลายสถานที่จึงขอให้หมั่นตรวจสอบหากพบว่ามีการรวมตัวกันโดยมีพฤติการณ์ที่ส่อหรือแสดงว่าอาจมีการกระทำที่ไม่เหมาะสมให้เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามแผนการปฏิบัติที่แจ้งไว้ในการประชุมครั้งนี้
๗. ขณะปฏิบัติหน้าที่หากพบการกระทำผิดหรือสิ่งใดๆ ที่เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่พี่น้องประชาชนให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชาทราบทันที
เจ้าหน้าที่รับทราบจึงปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น