วันจันทร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประชุมเจ้าหน้าที่สายตรวจมอบหมายภารกิจก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ (๔ ตุลาคม ๒๕๕๓)

วันนี้เวลาประมาณ ๑๕.๕๐ น. ผมเรียกประชุมเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ผลัดที่จะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างเวลา ๑๖.๐๐.๒๔.๐๐ น.เพื่อชี้แจงและมอบหมายภารกิจก่อนออกปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าอาคารที่ทำการ สภ.พาน โดยก่อนชี้แจงและมอบหมายภารกิจนั้นได้ตรวจสอบความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในเรื่องเครื่องแต่งกาย,อาวุธปืนประจำกาย,อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสายตรวจและยานพาหนะแล้วพบว่าทุกคนมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นอย่างดี



เจ้าหน้าที่ผลัดนี้ประกอบด้วย
๑. ด.ต.จรัส โกฎิสืบ
๒. ด.ต.อภิชาติ ธรรมธุระ
๓. ด.ต.อภิชาติ ภาชนะนนท์
๔. จ.ส.ต.นิพนธ์ ศรีพรม

สำหรับแนวคิดที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบนั้นในวันนี้ได้น้อมนำพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีที่สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจประจำปีการศึกษา ๒๕๒๘ พระราชทานประกาศนียบัตรกับเข็มพิทักษ์ชนาธิปัตย์แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรการบริหารงานตำรวจชั้นสูงรุ่นที่พระราชทานประกาศนียบัตรกับเข็มสันติพิทักษ์แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรผู้กำกับการ รุ่นที่และพระราชทานประกาศนียบัตรกับเข็มพิทักษาธิปัตย์แก่ผู้สำเร็จการศึกษาอบรมหลักสูตรฝ่ายอำนวยการตำรวจชุดที่ ๘ ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันเสาร์ที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙ มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ดังนี้

...ปัจจุบันนี้มีเหตุผลหลายอย่าง ทำให้ตำรวจต้องรับภาระหนักยิ่งขึ้นในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยเฉพาะในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและการต่อต้านศัตรูผู้บ่อนทำลายความ มั่นคงของประเทศชาติในรูปต่างๆ ดังนั้น เจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์แต่ละคนจึงต้องมีความรู้ความสามารถอย่างสูง และต้องรู้จักใช้ความรู้ความสามารถนั้นอย่างถูกต้อง สอดคล้องกับสถานการณ์ นอกจากด้านความรู้ความสามารถแล้ว ทางด้านจิตใจ ตำรวจก็จำเป็นจะต้องได้รับการฝึกอบรมเป็นพิเศษให้มั่นคงและแข็งแกร่งถึงขนาด เพื่อจักได้สามารถอดทนและอดกลั้นต่อความยากลำบากทุกอย่าง รวมทั้งอามิสเครื่องเย้ายวนให้ประพฤติผิดต่อหน้าที่ด้วยมิฉะนั้น จะไม่อาจรักษาความสุจริตยุติธรรมและวินัยอันดีงาม ซึ่งเป็นคุณสมบัติหรือความดีของตำรวจไว้ให้เหนียวแน่นตลอดไปได้

การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์ จึงทำได้ยาก และเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว ตำรวจแต่ละคนจึงต้องตั้งใจและเพียรพยายามให้สุดกำลังที่จะสร้างเสริมและส่ำสมรักษาความดีให้สมบูรณ์อยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุด จะต้องกระทำดังนี้ให้พร้อมทั่วกันทุกฝ่ายทุกคนด้วย จึงจะบังเกิดประสิทธิผล ช่วยให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อยและเป็นปกติสุขมั่นคงได้ ตรงข้าม ถ้าปฏิบัติไม่พร้อมเพรียงกัน หรือพากันละเลยไม่รักษาความดีแล้ว ความยุ่งยากระส่ำระสายก็จะมีตามมา จึงใคร่ขอให้นายตำรวจทุกคนนำไปคิดพิจารณาให้เห็นถ่องแท้ เพื่อจักได้ประพฤติปฏิบัติตนปฏิบัติหน้าที่ให้ถูก ให้สมควร และให้เป็นกำลังสร้างสรรค์สันติราษฎร์อย่างแท้จริงได้ตลอดไป…”




ในส่วนของภารกิจที่มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผลัดนี้นำไปปฏิบัติมีดังนี้

๑. ให้ทุกคนถือเป็นหลักปฏิบัติประจำว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่ผลัดเก่าจะออกเวรจะต้องบันทึกหรือรายงานการปฏิบัติตามแบบฟอร์มที่กำหนดและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ผลัดใหม่ทราบด้วยว่ามีกรณีใดบ้างที่จะต้องดำเนินการหรือรับช่วงต่อเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความต่อเนื่อง

๒. การปฏิบัติหน้าที่ในการออกตรวจตราดูแลความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยแก่พี่น้องจะต้องกระทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ

๓. ให้เน้นจุดหรือบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านหรือแหล่งที่อาจเกิดการกระทำผิดได้ให้มากเป็นพิเศษ เช่น ร้านอาหาร/สถานบริการ,แหล่งมั่วสุม,ย่านการค้า,ร้านมินิมาร์ท,ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น

๔. นอกจากนี้ช่วงเวลาดึกหรือตามเวลาที่เหมาะสมให้ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยบ้านเรือนพี่น้องประชาชนด้วยเพื่อป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินที่อาจจะเกิดขึ้น

๕. ให้ปรากฏกายให้พี่น้องประชาชนเห็นได้เด่นชัดตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่

๖. หากมีเหตุร้ายหรือสิ่งสำคัญเกิดขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่ให้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบทันที

๗. เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้วให้บันทึกผลการปฏิบัติตามแบบฟอร์มที่กำหนดรวมทั้งแจ้งผลการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ผลัดใหม่ทราบด้วย

เจ้าหน้าที่รับทราบจึงปล่อยแถวออกปฏิบัติหน้าที่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น