วันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เยี่ยมลูกสาวที่โรงเรียน (๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๓)

ทุกๆ วันอาทิตย์ผมกับภรรยา (คุณนภาพัน มัจฉา) มีภารกิจและหน้าที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้อยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือจะต้องเดินทางไปเยี่ยมลูกสาวที่โรงเรียน ลูกสาวคนนี้เธอเป็นคนสวยที่สุดในโลก (อย่างน้อยก็ในสายตาของผมล่ะครับ ฮา) ชื่อ น.ส.ปัทมาพร มัจฉา ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.๔ วิทยาศาสตร์โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกามยาว จังหวัดพะเยา ห่างจากบ้านผม (ตำบลบ้านต๋อม อำเภอเมืองพะเยา) ประมาณ ๓๐ กิโลเมตรเห็นจะได้ โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้น ม.๑-ม.๖ ซึ่งนักเรียนทุกคนจะต้องกินต้องอยู่ต้องเรียนในโรงเรียนตลอดเวลา จะอนุญาตให้พ่อแม่ผู้ปกครองไปเยี่ยมได้เฉพาะวันอาทิตย์ช่วงเที่ยงถึงห้าโมงเย็น และจะให้เด็กๆ กลับบ้านทุกๆ ๓ สัปดาห์ในวันพฤหัสบดีโดยพ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องส่งถึงโรงเรียนอีกครั้งในวันอาทิตย์ก่อนห้าโมงเย็น

ตั้งแต่ลูกสาวเข้าเรียนที่นี่ (พฤษภาคม ๒๕๕๐) จนถึงเดี๋ยวนี้ผมกับภรรยาไม่เคยขาดการเยี่ยมลูกแม้แต่ครั้งเดียว (สุดยอด) เวลาไปก็ต้องหอบหิ้วข้าวของทั้งของกิน (ที่เธอจะแจ้งออเดอร์มาก่อนว่าวันอาทิตย์อยากกินอะไรบ้าง) ของใช้พะรุงพะรังไปให้เธอซึ่งตามปกติจะถึงราวๆ ก่อนเที่ยง เมื่อไปถึงแล้วแม่เขาก็จะจัดวางข้าวของที่(เธอบังคับให้)ผมเป็นคนหิ้วลงจากรถไว้ที่โต๊ะใต้ถุนอาคารซึ่งโรงเรียนจัดให้เป็นที่สำหรับเยี่ยมนักเรียน จากนั้นผมก็จะคว้ากล้องคู่ใจบันทึกภาพอะไรต่อมิอะไรในโรงเรียนเก็บไว้เป็นหลักฐานรวมถึงให้ภรรยานำลงเผยแพร่ใน Facebook ส่วนตัวของเธอด้วย (http://facebook.com/npapun) สักพักหนึ่งประมาณเที่ยงครึ่งเด็กๆ ซึ่งรับประทานอาหารกลางวันกันที่โรงเลี้ยงก็ทานเสร็จจากนั้นก็ตามอัธยาศรัยของเขา ไปพบพ่อแม่ที่มาเยี่ยมบ้าง ไปนอนที่หอนอนบ้าง ส่วนลูกสาวผมแน่นอนว่าเธอจะต้องมาหาผมกับแม่เขาืเพื่อทานอาหารกลางวันร่วมกัน

คงจะแปลกใจใช่ไหมครับว่า เอ้า ก็เมื่อกี๊บอกว่าช่วงกลางวันเป็นเวลาทานอาหารของเด็กๆ ที่โรงเลี้ยงแล้วทำไมลูกสาวคนสวยของผมทานไม่อิ่มอีกเหรอ คือยังงี้ครับจะเล่าให้ฟัง ลูกสาวผมน่ะตั้งแต่ที่เธอเรียนที่นี่วันอาทิตย์เธอจะไม่แตะอาหารกลางวันของโรงเรียนเลย ไม่ใช่ไม่อร่อย ผมเคยดู(และทาน)แล้วอร่อยมาก อาหารแต่ละอย่างถูกหลักโภชนาการทั้งนั้นแถมยังน่ากิ๊นน่ากินอีกต่างหาก แต่เหตุที่ไม่ทานนั้นเธอบอกว่าตั้งแต่เกิดมาเธอจะต้องทานอาหารกับพ่อแม่ทุกวัน แต่พอมาอยู่ที่นี่อาทิตย์หนึ่งพ่อแม่ถึงจะมาเยี่ยมได้แล้วก็เยี่ยมได้ครั้งเดียวคือเวลาที่บอกนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องทานอาหารกับพ่อแม่อาทิตย์ละครั้งในเวลาที่มาเยี่ยมก็เลยขออนุญาตคุณครูว่าไม่ทาน ครั้งแรกๆ เพื่อนๆ พากันงงว่าทำไม แต่อยู่มาอยู่ไป "เอ้อ รู้แล้วละว่าทำไมฝน(ชื่อเล่นลูกสาวผมน่ะครับ)ไม่กินข้าวกลางวันในวันอาทิตย์ ขอหื้อกิ่นกั๊บป้อกั๊บแม่นักๆ เน้อ จะได้ตุ้ย (อ้วน) เร็วๆ" เนี่ย เพื่อนๆ เขาจะพูดกันแบบนี้จนรู้กันทั้งโรงเรียนเลยทีเดียว

พูด(พิมพ์)มาพอสมควรแล้วขอเข้าเรื่องวันนี้ซะที เมื่ออาทิตย์ก่อน (อาทิตย์ที่แล้วผมไม่ได้ไปครับเพราะติดอบรมปฏิบัติธรรมที่อำเภอเชียงของ คุณแม่เขาไปคนเดียว) กว่าจะไปถึงโรงเรียนได้ก็ปาเข้าไปเที่ยงสี่สิบห้าสิบแล้วเพราะตอนเช้ามีประชุมผู้ปกครองของหลานที่โรงเรียนอีกแห่งหนึ่งแต่ตอนขากลับมาเจอคนจอดรถขวางทางเข้าออกซะงั้น กว่าจะออกได้เสียเวลาไปตั้งนาน อีกอย่างหนึ่งแฟนผมซึ่งไปด้วยกันจะต้องไปหาซื้ออะไรให้ลูกอีกหลายอย่างใช้เวลาพอสมควร พอได้ครบแล้วทั้งของกินของใช้และของที่ลูกสั่งก็รีบบึ่งรถเข้าโรงเรียนทันที เมื่อไปถึงซึ่งตามปกติจะเห็นเด็กๆ นั่งทานอาหารที่โรงเลี้ยงกันอยู่แต่วันนี้เด็กทานกันอิ่มแล้ว หลายคนออกจากโรงเลี้ยงแต่ก็ยังมีบางคนยังอยู่ที่นั่น แฟนผมก็จัดข้าวของส่วนผมออกเดินไปตามหาลูกสาวที่โรงเลี้ยงเพราะคิดว่าคงจะอยู่ที่นั่น เดินไปได้แป๊บหนึ่งเห็นเธอนั่งอยู่แถวๆ ใต้ต้นไม้ใกล้โรงเลี้ยง ตอนนั้นเธอยังไม่เห็นผม ผมรีบย่องๆ เข้าไปใกล้ๆ พอได้จังหวะก็ชัตเตอร์กล้องที่เตรียมไว้ไ้ด้ภาพมาภาพหนึ่ง เสียงกดชัตเตอร์ทำให้เธอได้ยินก็เลยหันมา พอเห็นผมปั๊บ เธอวิ่งมาหาและกอดผมแน่นเลย น่ารักจริงๆ ลูกสาวคนนี้ ผมก็พาเธอไปที่ที่แม่เขาเตรียมข้าวของอยู่



อาหารกลางวันวันนี้เป็นไปตามที่ลูกสาวสั่งไว้นั่นก็คือก๋วยเตี๋ยว(ถ้วยพิเศษ ใหญ่ๆ) ตามด้วยกล้วยทอด พิซซ่า ขนมรังผึ้ง ตบท้ายด้วยแอ๊ปเปิ้ล ๕ ลูก ลูกสาวรวมทั้งผมกับภรรยาทานกันอย่างเอร็ดอร่อย ทานไปคุยกันไป โม้กันไป รวมถึง (แฮ่ะๆ ทะเลาะ(กับผม)ไป (เป็นการหยอกล้อของผมกับลูกน่ะครับ เรื่องปกติธรรมดา ไม่ใช่ทะเลาะกันจริงๆ หรอก แต่ผมมักจะใช้คำว่า "ทะเลาะ" กับลูกสนุกดี) ใช้เวลาทานอาหารกลางวันวันนี้แบบสบายๆ (เหมือนทุกครั้งนั่นแหละ) ประมาณชั่วโมงเศษๆ ของก็หมดและอิ่มท้องกันทุกคน ยิ่งลูกสาวผมแล้วด้วยท้องกางเลยครับ พอของหมดแล้วผมแกล้งถามลูกสาวว่า "ลูก อิ่มหรือยัง จะเอาอะไรอีกไหม พ่อจะออกไปซื้อให้" คำตอบก็คือ "ถามแม่" ฮั่นแน่ะ แสดงว่ายังมีอีกกระเพาะหนึ่งนะเนี่ย แต่ก็อิ่มกันแปร้ล่ะครับ




เป็นธรรมเนียมของเราครับว่าถ้ามีกิจกรรมอะไรจะต้องบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานซะหน่อยด้วย นี่ก็เช่นกันการเยี่ยมเยียนและทานอาหารพูดคุยกันในวันนี้เลยขออนุญาตเก็บภาพมาฝาก เห็นแล้วเป็นไงครับครอบครัวผมมีความสุขที่สุดในโลกเลยใช่ไหมล่ะ


ให้เวลากับลูกถึงประมาณบ่ายสามโมงก็ลาจากกัน ผมและภรรยาจากลูกสาวสุดที่รักด้วยรอยยิ้มและความผูกพันธ์อย่างแนบแน่นในสายเลือดและความรักที่มีต่อกันอย่างไม่รู้เสื่อมคลาย

"อาทิตย์หน้าเจอกันใหม่นะลูก ตั้งใจเรียนหนังสือและเป็นเด็กดีนะจ๊ะ"
"ค่ะ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะแม่ บ๊ายบาย"

ปิดท้ายกันวันนี้ด้วยภาพบรรยากาศอันสวยงามของโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติฯ





และการสนองตอบต่อโครงการในพระราชดำริขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว





2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ11 สิงหาคม 2553 เวลา 18:47

    สวยครับทำเองรึครับเว็บนี้ มีแต่ภาพสวยๆเลยครับ บอกวิธีทำบ้างสิครับอยากทำบ้าง ลูกสาวน่ารักนะครับคุณพ่อตา โอ๊ะ! ไม่ใช่คุณตำรวจ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ27 พฤษภาคม 2554 เวลา 09:13

    ถ่ายภาพ จัดภาพหยั่งก่ะมือ ปู่ชีพแหน่ะครับ >(ปู่ชีพแก่ไปรึอเปล่า)< จัดองค์ประกอบของภาพได้เนียนมากครับ และก็มาจัด เลย์เอาท์ ภาพได้ต่อเนื่องดีมากครับ ผมดูชื่นชมมากมากเลยครับ

    ตอบลบ