วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

อาหารเย็นที่ตู้ยามแม่เย็น (๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓)

เมื่อวันก่อน (๓๐ มิืถุนายน ๒๕๕๓) ผมนำเสนออาหารกลางวันสไตล์โรงพักเมืองพานให้ทุกท่านได้รับทราบกันแล้วว่าพวกเราอยู่กันยังไง กินกันยังไง (ใครยังไม่ได้อ่านหรือไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนคลิกอ่านได้ที่นี่ครับ) ก็แบบลูกทุ่งน่ะเป็นกันเองดีได้ใจลูกน้องแล้วก็นายด้วยเพราะเราต้องทำงานร่วมกันตลอดจะแบ่งกลุ่มแบ่งเหล่าแบ่งพวกก็คงจะหมดสมัยไปแล้วนะผมว่า

เมื่อเสนอเรื่องนั้นไปแล้วพอดี๊พอดีวันนี้ตอนเย็นผมต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่หน่วยบริการประชาชนหรือตู้ยามแม่เย็นตามปกติเหมือนทุกๆ วันที่ผ่านมา แล้วที่ตู้ยามแม่เย็นเย็นนี้น้องๆ ตำรวจของผมเขากำลังทำอาหารเย็นทานกันเป็น รปจ. ก็เลยมีความคิดขึ้นมาว่า เอ๊ะ น่าจะลองเขียนเรื่องอาหารเย็นที่แม่เย็นมาเล่ามาบอกให้ฟังกันอีกสักหน่้อย หนึ่งก็เลยเป็นที่มาของวันนี้ ส่วนจะเป็นอย่างไรตามผมมาเลย

ที่ตู้แม่เย็นเย็นนี้ผมเดินทางไปถึงเมื่อราวๆ ห้าโมง เมื่อไปถึงก็เหมือนเดิมครับตรวจตราดูแลเรื่องอะไรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าน้องๆ เขาทำกันไว้เ็ป็นอย่างไร ครบถ้วนสมบูรณ์ดีไหม มีอะไรจะต้องแก้ไขปรับปรุงหรือเพิ่มเติมจะได้แนะนำกัน ดูแล้วก็ต้องขอชมเชยให้รู้กันทั่วไปล่ะครับว่าน้องๆ ตำรวจตู้ยามแม่เย็นเนี่ยะเขาทำเอกสารไว้สมบูรณ์ครบถ้วนและเป็นปัจจุบันมากเลยทีเดียวเรียกว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องหรือแนะนำซักนิด ขอชมเชยอีกครั้ง



ตรวจตราดูแลความเรียบร้อยของเอกสารและงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็เดินเข้าไปในห้องครัวซึ่งอยู่หลังตู้ที่ตอนนั้นน้องๆ เขากำลังเตรียมทำอาหารเย็นทานกันอยู่ อาหารเย็นของพวกเราเย็นนี้เป็นลาบครับ ลาบหมู ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่พวกเราคุ้นเคยและทานกันเป็นประจำแต่ก็ไม่เคยเบื่อเลย แต่ละคนเนี่ยะฝีมือสุดเลยทีเดียว ก็แหม ทำเป็นกันมาตั้งแต่พอจะจำความได้แล้วประมาณว่าได้มรดกสืบทอดมาจากคุณพ่อคุณแม่ปู่ย่าตายายนั่นแหละ ทุกคนเป็นคนเมือง (คนเหนือ) ทั้งหมดก็เลยสบายใจหายห่วงในเรื่องนี้



ทีนี้มีรึที่พอผมเห็นแล้วจะไม่เข้าไปร่วมแจมกับเขา ไม่มีหรอก ต้องแน่นอน เพราะอยากจะแสดงฝีมือให้น้องๆ เขาเ้ห็นว่าผมน่ะแม้ว่าจะไม่ใช่คนทางเหนือโดยกำเนิด (เกิดที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง) แต่พอจบจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจแล้วก็มารับราชการอยู่ทางเหนือตลอดไม่เคยย้ายไปภาคอื่นเลยเป็นเวลากว่า ๒๐ ปีเข้าให้แล้ว อีกอย่าง(ผมคิดเอาเองว่า)ผมน่ะพอจะมีความรู้เรื่องการทำอาหารเมืองกับเขาบ้างแม้จะไม่มากมายอะไรก็เลยขอร่วมวงกับน้องๆ เขาหน่อย น้องๆ บางคนก็หั่นและสับเนื้อหมูจนละเอียดด้วยความชำนาญ บางคนก็เจียวกระเทียม บางคนก็หั่นผัก ส่วนผมเอง แฮ่ะๆ ขอตำน้ำพริก(ที่น้องๆ เขาเอาอะไรต่อมิอะไรรวมให้จนครบถ้วนกระบวนความแล้ว) การตำน้ำพริกของผมเนี่ยไม่ได้โม้นะ ขอบอก น้องๆ เขาว่า "แหม นึกว่ามืออาชีพมาจากไหน" แล้วก็ยิ้มๆ ที่มุมปาก (เอ๊ะ เขาชมหรือแกล้งประชดเรานี่ งงเหมือนกัน) แต่ก็ได้อะไรที่เป็นกันเองดี



ทำอาหารเย็นกันที่ห้องครัวในตู้ยามได้สักแป๊บหนึ่งน้องๆ สายตรวจรถยนต์เขาตรวจผ่านมาและแวะที่ตู้ยาม เมื่อถึงตู้แล้วก็เข้ามาทักทาย Say hello ตามธรรมเนียม แต่อย่างที่บอกนั่นแหละทุกคนล้วนเป็นคนเมืองทั้งนั้น ยิ่งมาเห็นพวกเราทำอาหารเมืองแล้วเขาจะอดใจได้หรือน้องๆ เขาก็เลยขอช่วยแจมน่ะครับ แต่ละคนเท่าที่ดู โอ้โฮ มืออาชีพจริงๆ (ไม่ใช่มืออาชีพแบบที่น้องๆ เขา(ทำเป็นแกล้ง)ชมผมแน่นอน) เสียงตำน้ำพริก เสียงสับเครื่องปรุง การเด็ด การไซ้(คัดแยก)ผักเผิกอะไรพวกนี้สุดยอดไปเลย






อาหารเสร็จแล้วทำไงต่อ เก็บเข้าตู้กับข้าวเอาำไว้ดู??? แหม ก็ต้องเอาไปทานกันซิ่ครับยิ่งตอนนั้นใกล้ๆ หกโมงเย็นแล้วด้วยท้องงี้ร้องจ๊อกๆ กันทุกคนเลยทีเดียว พวกเราก็จัดแจงยกอาหารที่ทำพร้อมข้าวนึ่ง (ข้าวเหนียว) ที่ไปซื้อมาไว้ด้านนอกบริเวณโต๊ะอาหารซึ่งใช้ได้สารพัดประโยชน์ ทานอาหารก็ได้ ประชุมก็ได้ รวมถึงบางคนใช้นอนด้วยเวลาที่ว่างๆ เวร (ผมก็เคย นิ้มนิ่ม ฮา)






เป็นไำงครับเห็นภาพข้างบนของพวกเราแล้วอิจฉาในความเอร็ดอร่อยของอาหารมื้อนี้กันไหมเอ่ย ทุกคนอิ่มแปร้เลยทีเดียว สำหรับผมไม่ต้องถามถึงข้าวนึ่งคนเดียวหมดไป ๒ ถุง(ใหญ่ๆ) ไม่ตุ้ย(อ้วน)คราวนี้แล้วจะไปตุ้ยคราวไหน

พวกเราใช้เวลาทานอาหารเย็นที่สุดแสนจะอร่อยมื้อนี้ประมาณ ๒๐ นาทีไม่เกินนั้นก็พุงกางกันทุกคน มีกำลังวังชาพร้อมปฏิบัติหน้าที่เพื่อพี่น้องประชาชนอันเป็นที่รักของเราได้อย่างเต็มที่ ว่างๆ หากพี่น้องมีโอกาสเดินทางผ่านตู้ยามแม่เย็นอย่าลืมแวะไปแอ่วหาหมู่เฮาพ่องเน้อจะยะอาหารเมืองหื้อกิ่นครับผม

ปิดท้ายตอนนี้กันด้วยเรื่องแปลกๆ ของเป็ดและไก่หลังตู้ยาม ที่ตู้ยามเราเนี่ยเลี้ยงเป็ดและไก่ไว้เยอะเลย ส่วนใหญ่ก็เอาไว้ทำเป็นอาหารนั่นแหละ เป็ดกับไก่นี่ปกติต่างคน(ฝ่าย)ต่างอยู่ไม่ยุ่งเกี่ยวกันแต่ที่นี่ไม่ใช่ยังงั้น ส่วนจะเป็นยังไงลองดูภาพที่ผมนำมาลงประกอบด้านล่างนะครับ




รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น