สวัสดีทุกท่านครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา รายงานตัวครับผม
วันนี้วันอังคารที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๓ แรม ๑๐ ค่ำเดือน ๘ หรือเดือน ๑๐ ของทางภาคเหนือ (เดือนทางจันทรคติของภาคเหนือจะเร็วกว่าภาคอื่น ๒ เดือน) ปีขาล ซึ่งปลายเดือนนี้จะเป็นวันสำคัญยิ่งของพุทธศาสนาเรานั่นคือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ก็ขอให้พี่น้องพุทธศาสนิกชนทุกท่านเตรียมตัวเตรียมใจรอรับและทำกิจกรรมในวันสำคัญนี้โดยทั่วหน้ากันนะครับ
มีหลายท่านบอกว่าติดตามบล็อกของผมอยู่บ่อยๆ ก็ต้องขอขอบพระคุณนะครับ เพราะสิ่งที่เรานำเสนอผ่านบล็อกนั้นทั้งหมดจะเป็นเรื่องราวหรือกิจกรรมต่างๆ ของตำรวจ สภ.พานเรานั่นเองว่ามีกิจกรรมดีๆ อะไรบ้าง ประมาณว่าเป็นบันทึกเหตุการณ์ประจำวันหรือ Diary ย่อมๆ ก็ได้ ทีนี้ท่านที่ติดตามก็ถามว่ามีข้อสงสัยว่าที่ผู้บังคับบัญชาตำรวจได้ให้เจ้าหน้าที่สายตรวจของเรากล่าวคำปฏิญาณตนและอุดมคติตำรวจทุกเช้าช่วงเวลาเคารพธงชาติน่ะเขากล่าวกันว่าอย่างไร โอ้!! ขอโทษทีผมก็ลืมนึกไปจริงๆ แบบว่าตัวเองและตำรวจของเราน่ะรู้ แต่คนอื่นที่เขาอ่านไม่รู้และยังไม่เข้าใจแล้วก็ไม่บอกหรือนำเสนอให้ทราบ เฮ้อ!! ถือว่าเป็นความผิดของผมเองดีกว่าครับ ต้องขอโทษด้วย และก็ต้องขอขอบพระคุณท่านที่ทักท้วงหรือสอบถามมา นี่ซิ่ครับถึงจะเรียกว่าเป็น “แฟน” กันจริงๆ
เอาล่ะครับมาว่าเรื่องนี้กันต่อ คือหลักปฏิบัติของการประชุมมอบหมายภารกิจให้แก่เจ้าหน้าที่สายตรวจช่วงเวลาเช้าคือเวลาเคารพธงชาติของ สภ.พานเรานั้นได้ถือเป็นหลักปฏิบัติว่าหลังจากเคารพธงชาติแล้วนายร้อยเวรหรือ สวป.หรือนายตำรวจที่ควบคุมแถวอยู่ ณ เวลานั้นจะต้องตรวจเช็คความพร้อมของเจ้าหน้าที่ทั้งเรื่องอาวุธปืนประจำกาย,อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมีขณะปฏิบัติหน้าที่ เช่น สมุดพกสำหรับบันทึกเหตุการณ์ที่พบขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น แล้วที่สำคัญก็คือเครื่องแบบหรือเครื่องแต่งกายครับว่าถูกต้องครบถ้วนตามที่ระเบียบกำหนดไว้หรือไม่ เรียกว่าหากใครไม่พร้อมจะไม่ให้ออกทำงานว่ากันยังงั้นเถอะ ผมเผ้า รองเท้า เครื่องหมาย หมวก เข็มขัดนี่ต้องเป๊ะ แล้วหลังจากนั้นก็จะให้ตำรวจกล่าวคำปฏิญาณตนและอุดมคติตำรวจ
ที่นี่คำปฏิญาณตนมีว่าอย่างไรผมจะเฉลยให้ทราบ คือคำปฏิญาณตนนี้เป็นสิ่งจำเป็นที่ตำรวจเราทุกคนจะต้องท่องให้ขึ้นใจและนำไปเป็นหลักปฏิบัติทั้งในหน้าที่ราชการและส่วนตัวเนื่องตำรวจของเราซึ่งทั่วประเทศนั้นมีถึงสองแสนกว่าคนและถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บ้านเมืองมีความสงบสุข พี่น้องประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจจะต้องพบปะเจอะเจอปัญหาอุปสรรคสิ่งเย้ายวนอะไรต่างๆ มากมาย ทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี จึงจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งมาคอยกำกับควบคุมดูแลให้ทุกคนยึดมั่นและถือมั่นในสิ่งเดียวกันและปฏิบัติในหนทางที่ถูกที่ควร คล้ายๆ กับประมวลจริยธรรมอะไรสักอย่างหนึ่งนั่นแหละทั้งนี้เพื่อที่ตำรวจทุกคนจะได้มีจิตสำนึกแห่งการทำงานด้วยความเสียสละอย่างแท้จริง คำปฏิญาณตนนี้มีอยู่คู่กับตำรวจของเรามานานแล้ว แต่จะสมัยไหมผมขอเวลาไปค้นคว้าหาข้อมูลก่อนก็แล้วกันครับแล้วจะนำมาเล่าแจ้งแถลงไขให้ทราบตอนหลัง สำหรับคำปฏิญาณตนนั้นมีดังนี้ครับ
ข้าพเจ้า จักจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ
ข้าพเจ้า จักยอมเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อระงับทุกข์ และบำรุงสุขให้แก่ประชาชน ตามหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์
ข้าพเจ้า จักปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และยึดศีลธรรมเป็นหลักประจำใจ
ข้าพเจ้า จักยึดมั่นอยู่ในวินัย และรักษาไว้ซึ่งระเบียบแบบแผนของตำรวจ
ข้าพเจ้า จักเชื่อฟังคำสั่งของผู้บังคับบัญชา และจักปกครองผู้ใต้บังคับบัญชา ด้วยความเที่ยงธรรมอย่างเคร่งครัด
เมื่อกล่าวคำปฏิญาณตนเสร็จแล้วก็จะเป็นกล่าวอุดมคติตำรวจซึ่งมีใจความดังนี้
เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่
กรุณาปรานีต่อประชาชน
อดทนต่อความเจ็บใจ
ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
ไม่มักมากในลาภผล
มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อปวงชน
ดำรงตนในยุติธรรม
กระทำการด้วยปัญญา
รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต
บทอุดมคติของตำรวจที่ปรากฏอยู่นี้เป็นร้อยกรองฉบับเดิมที่นิพนธ์โดยท่านเจ้าคุณศาสนโสภณ เจ้าอาวาสวัดมกุฎกษัตริยารามซึ่งในเวลาต่อมาทรงได้รับการสถาปนาสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ในขณะนั้นกรมตำรวจมีความประสงค์ที่จะนำบทอุดมคติของตำรวจบทนี้สลักลงในหินอ่อนประตูทางเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม แต่ด้วยบทร้อยกรองอุดมคติบทนี้ล้วนแต่มีคติเตือนใจเป็นอย่างยิ่งและสมควรที่ข้าราชการตำรวจทุกท่านจักได้ยึดมั่นไว้เป็นอุดมคติของตนเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการให้ก้าวหน้าสืบไปจึงมีคำสั่งที่ ๑๗/๒๔๙๙ ลงวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๙ เรื่องบทร้อยกรอง “อุดมคติของตำรวจ” ให้ข้าราชการตำรวจและนักเรียนตำรวจทั้งหลายได้ท่องจดจำ “อุดมคติของตำรวจ” ไว้ให้ขึ้นใจอยู่เสมอและให้กล่าวหลังจากสวดมนต์ไหว้พระแล้วทุกวันเพื่อเป็นการไม่เกิดความสับสนในบทอุดมคติของตำรวจที่มีข้อความคลาดเคลื่อนไปจากของเดิมและเพื่อให้ข้าราชการตำรวจได้ทราบและยึดมั่นไว้เป็นอุดมคติของตนเพื่อปฏิบัติราชการในแนวทางเดียวกันต่อไป
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็คือข้อเฉลยที่หลายท่านสงสัยและสอบถามมา ผมก็เลยถือโอกาสนำมาตอบในวันนี้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเยี่ยมชมเว็บไซต์และบล็อกต่างๆ ของผมด้วยดีตลอดเรื่อยมา มีปัญหาสงสัยอะไรถามมาได้นะครับ สิ่งไหนผมตอบเองได้ก็จะไม่รอช้าจัดให้ทันที แต่หากยังตอบไม่ได้ก็จะสอบถามผู้รู้หรือค้นคว้าหามาตอบให้ทราบต่อไปครับ...ขอบคุณอีกครั้ง
รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ
สวัสดีครับผม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น