วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยามประจำสถานี (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓)

วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓ เ้วลาประมาณ ๒๑.๓๐ น.ผมเดินทางไปตรวจการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยามประจำสถานีพบ ด.ต.มานัส ฝั้นตื้อ อยู่ปฏิบัติหน้าที่รายงานเหตุการณ์ทั่วไปปกติ

การตรวจครั้งนี้ได้ตรวจในเรื่องของเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สมุดควบคุมผู้ต้องหา,สมุดจัดเลี้ยงอาหารผู้ต้องหา,รวมถึงเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องพบว่าเจ้าหน้าที่จัดทำไว้สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน

จากนั้นได้ร่วมกันตรวจห้องควบคุมผู้ต้องหาซึ่งคืนนี้ไม่มีผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ สภาพของห้องควบคุมมั่นคงแข็งแรงไม่มีสิ่งของผิดกฎหมายหรือระเบียบอยู่ภายใน

ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดโดยยึดระเบียบที่เกี่ยวข้องไว้เป็นสำคัญและหากมีสิ่งใดเกิดขึ้นขณะปฏิบัติหน้าที่ให้รายงานให้ทราบทันที

เจ้าหน้าที่รัีบทราบ

<< ภาพประกอบ (๒๐ ภาพ) >>

อาหารกลางวันสไตล์โรงพักเมืองพาน (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓)

หลักปฏิบัติอย่างหนึ่งของตำรวจ สภ.พานของเราก็คือการมีกิจกรรมในการทานอาหารกลางวันร่วมกันซึ่งพวกเราปฏิบัติติดต่อกันตลอดเรื่อยมา (ไม่ทราบว่าตั้งแต่ยุคไหนเหมือนกัน) จนถึงปัจจุบัน โดยทุกๆ สัปดาห์พวกเราจะฮอม(รวม)เงินกันเพื่อซื้อวัตถุดิบประเภทที่จะใช้ทำอาหารแล้วให้แม่บ้านออกไปซื้อที่ตลาดใกล้ๆ โรงพักจากนั้นก็นำมาให้พ่อครัวซึ่งก็คือตำรวจของเราที่มีฝีมือทำการปรุงตามแต่ว่าวันนั้นๆ ต้องการกินอะไรอย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง



เมื่อพร้อมแล้วพ่อครัวจะยกอาหารที่ปรุงอย่างสุดฝีมือไปไว้ที่ที่ลูกมือ(ซึ่งทำอาหารไม่เป็น(รวมทั้งผมด้วย)) จัดโต๊ะไว้หลังจากนั้นก็เป็นเวลาอิ่มอร่อยของพวกเรา การทานอาหารกลางวันแต่ละครั้งผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ท่านผู้กำกับการลงมาหากมีเวลาว่างท่านก็จะร่วมทานกับพวกเราอย่างเป็นกันเองเสมอๆ ซึ่งภาพประกอบในวันนี้อาหารพิเศษของพวกเราก็คือ "ลาบจิ๊น" (ลาบเนื้อ) ส่วนจะลำ(อร่อย)หรือไม่ให้สังเกตอาการของแต่ละคนดูกันเองนะครับ



เพิ่มเติมครับ : เพื่อให้ข้อมูลในวันนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นจึงขออนุญาตนำความรู้เกี่ยวกับเรื่อง "ลาบ" มาเล่าให้ฟังดังนี้ครับ

ลาบเป็นอาหารยอดนิยมของคนทางภาคเหนือมีชื่อเต็มว่าลาบชิ้น (คนเมืองออกเสียง ลาบจิ๊น หรือบ้างก็เรียกชิ้นลาบ (จิ๊นลาบ) แต่มักเรียกกันสั้น ๆ ว่าลาบ

คนเมืองมีการทำลาบกินมานาน แต่ไม่ปรากฎบันทึกชัดเจนว่าเริ่มมีขึ้นเมื่อใด ซึ่งหากจะประเมินตามระยะเวลาที่เริ่มมีเครื่องเทศเข้ามาในภูมิภาคนี้ก็อาจประเมินได้ประมาณ ๓๐๐ กว่าปี

ลาบเป็นอาหารที่นิยมทำกินกันในโอกาสพิเศษหรืองานเลี้ยงในเทศกาลต่างๆ เช่น งานแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ สงกรานต์ หรืองานศพ เป็นต้น ส่วนประกอบหลักของลาบคือเนื้อสัตว์สด เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อควาย ซึ่งนำมาสับให้ละเอียดคลุกเคล้ากับเลือดสดและเครื่องในต้มหั่นซอย ปรุงด้วยเครื่องปรุงอันประกอบไปด้วยพริกแห้งผิงไฟให้เกรียมและเครื่องเทศต่างๆ เรียกเครื่องปรุงนี้ว่า น้ำพริกลาบ

การกินลาบ จะกินกับผักสดนานาชนิด โดยเฉพาะประเภทสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมแรง และเรียกผักที่นำมากินกับลาบว่า ผักกับลาบ

การเรียกชื่อลาบจะเรียกตามชนิดของเนื้อสัตว์ที่นำมาเป็นส่วนประกอบหลัก เช่น ลาบหมู ลาบงัว ลาบควาย ลาบไก่ ลาบปลา ลาบฟาน (เก้ง) เป็นต้น นอกจากนี้แล้วลาบยังเรียกชื่อตามลักษณะของการปรุงอีกด้วย

ลาบดิบ เป็นลาบที่ปรุงโดยไม่ผ่านความร้อนให้สุก ซึ่งคำว่า ลาบโดยทั่วไปจะหมายถึงลาบดิบนี้

ลาบคั่ว เป็นลาบดิบที่ปรุงเสร็จแล้วนำไปผัดให้สุก ซึ่งการคั่วหรือผัดนี้ ในยุคก่อนไม่ใช้น้ำมันแต่จะใส่น้ำเล็กน้อยลงในหม้อ หรือกระทะแล้วนำไปผัดให้สุก

ลาบเหนียว เป็นลาบที่มีลักษณะเหนียว (คล้ายผลไม้กวน) เนื่องจากในขณะปรุงนั้นจะใส่น้ำเลือดหรือน้ำที่ได้จากการต้มเครื่องในให้พอดีกับเนื้อ ซึ่งบางคนนิยมเอามะเขือขื่นแก่ๆ เผาไฟ เปลือกต้นลำไย เปลือกต้นมะกอก หรือเปลือกต้นเพกาโขลกผสมลงไปด้วยเพื่อจะทำให้ลาบเหนียวยิ่งขึ้น

ลาบน้ำโตม เป็นลาบที่ใส่น้ำเลือดหรือน้ำต้มเครื่องในผสมกับลาบให้มีลักษณะข้น (โตมหมายถึงท่วม)

ลาบหมี่ เป็นลาบที่เน้นใส่เครื่องใน หอม และกระเทียมที่เจียวจนกรอบแล้วลงไปผสมให้มากซึ่งเครื่องเจียวเหล่านี้เรียกว่า หมี่โดยทั่วไปแล้วลาบหมี่มักจะทำด้วยเนื้อหมู

ลาบลอ เป็นลาบที่ทำจากเนื้อหมูผสมกับเนื้อวัวหรือเนื้อควายอย่างละครึ่ง

ลาบขโมย เป็นลาบที่มีการหั่นหรือสับเนื้ออย่างเร่งรีบ เนื้อบางส่วนจึงถูกสับขาดจากกันบ้าง ไม่ขาดจากกันบ้าง เมื่อตักขึ้นมาจะติดกันเป็นพวงเรียกว่าพวงสะบันงา ซึ่งสืบเนื่องมาจากพวกขโมยที่ไปลักวัวควายผู้อื่นไปฆ่ากินแล้วเกรงว่าเจ้าของจะตามมาพบเข้าจึงทำลาบกินกันในบริเวณที่ฆ่าวัวควายนั้นอย่างรีบร้อน อุปกรณ์ เช่น เขียงก็ไม่ได้นำติดตัวไปด้วย จึงสับเนื้อบนหนังวัวควายที่ชำแหละออกมา ดังนั้นเนื้อที่สับหรือลาบที่ได้จึงไม่ละเอียด

ลาบเก๊า เป็นลาบที่ทำเป็นครั้งแรกของงานเลี้ยงแต่ละครั้ง โดยทำจากเนื้อสัตว์ที่เพิ่งผ่านการฆ่าชำแหละมาใหม่ ๆ สด ๆ ถือเป็นเนื้อที่ทำลาบได้อร่อย

หากเป็นการทำส้าจิ๊นคือปรุงอย่างลาบแต่ไม่สับเนื้อ เพียงแต่หั่นเป็นชิ้นๆ จะเรียก ส้าเดิก
คือการส้าเนื้อในตอนดึก เพราะการฆ่าชำแหละวัวควายสำหรับการเตรียมงานต่างๆ มักทำกันในตอนกลางคืนดึก ๆ หรือเช้าตรู่ของวันงานมักทำกินกันในกลุ่มผู้ที่มาช่วยกันฆ่าชำแหละสัตว์ และเนื่องจากทำกันในตอนดึกใกล้รุ่งจึงมักจะเรียกว่าลาบใกล้แจ้งอีกด้วย


เห็นแบบนี้แล้วอยากจะกินลาบกับหมู่เฮาก่อครับ ล้ำลำครับผม

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับผม

การเดินทางไปสถานีตำรวจภูธรพาน (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓)



สวัสดีครับ พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา สวป.สภ.พาน ครับผม

เปิดดู Space เก่้าของตัวเอง (http://phanpatrol.spaces.live.com/) ตั้งแต่เริ่มแรกที่ทำคือเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ รวมถึงบล็อกใหม่ ( http://mrsp2503.blogspot.com ) ดูไปดูมาได้ความคิดขึ้นมาว่าหลายๆ ท่านอาจจะต้องมีธุระปะปังเดินทางไปติดต่อโรงพักเมืองพานกันบ้างไม่เรื่องใดหรือวันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งลำพังพี่น้องเมืองพานหรือใกล้เคียงคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พี่น้องต่างถิ่นที่ไม่เคยไปล่ะจะทำอย่างไร อื้อ มี Space หรือบล็อกส่วนตัวแล้วก็เลยขอเขียนคำแนะนำในการไปโรงพักของเราขึ้นมาในวันนี้ซะหน่อย

สำหรับคำแนะนำเส้นทางการเดินทางไปสถานีตำรวจภูธรพานนี้ผมจะขออนุญาตแนะนำเฉพาะจากเส้นทางถนนพหลโยธินซึ่งเป็นสายหลักเท่านั้นเนื่องจากจุดอื่นๆ นอกจากนี้นั้นคาดว่าผู้ติดต่อคงจะเป็นพี่น้องประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในอำเภอพานเสียเป็นส่วนใหญ่คงจะรู้จักที่ตั้งของเราเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ในส่วนของเส้นทางที่แนะนำคือจากถนนพหลโยธินนั้นใช้สำหรับพี่น้องประชาชนที่เดินทางเข้ามาในเขตพื้นที่ของเราและอาจจะไม่ทราบว่าเส้นทางไปสถานีของเรานั้นไปทางใดจึงขออนุญาตแนะนำเฉพาะตรงเส้นทางนี้ โดยท่านสามารถเดินทางไปติดต่อได้จากจุดสำคัญๆ ดังนี้

หมายเหตุ : เส้นทางบนถนนพหลโยธินนั้นเริ่มจากเขตติดต่ออำเภอพาน-แม่ใจ (จังหวัดพะเยา) ซึ่งอยู่ที่กิโลเมตรที่ ๗๗๐.๕๐ และไปสิ้นสุดเขตติดต่ออำเภอพาน-อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงรายที่กิโลเมตรที่ ๘๐๒.๕๐๐

จุดที่ตั้งของสถานีตำรวจภูธรพานอยู่ด้านทิศตะวันตกของถนนพหลโยธิน (สายใหม่) ห่างจากถนนเส้นนี้เฉพาะจุดที่ใกล้ที่สุดประมาณ ๕๐๐ เมตร

เส้นทางการเดินทางไปสถานีตำรวจของเรา

๑. จุดหกแยกอำเภอพาน



จุดหกแยกอำเภอพานนั้นเป็นคำที่คนอำเภอพานใช้เรียกเป็นภาษาพูดที่้ชินปาก สำหรับชื่ออย่างเป็นการก็คือ
"แยกบ้านเก่า" จุดจุดนี้อยู่บนถนนพหลโยธินซึ่งถ้าท่านเดินทางเข้ามาในเขตอำเภอพานทางด้านจังหวัดพะเยา (ทางด้านทิศใต้) จะพบจุดจุดนี้ซึ่งเป็นจุดที่มีสัญญาณไฟจราจรแห่งแรกอยู่ห่างจากเขตติดต่อพาน-พะเยา (หรืออำเภอแม่ใจ) ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ณ จุดจุดนี้ท่านจะเห็นป้ายที่กรมทางหลวงติดตั้งไว้บริเวณเกาะกลางถนนป้ายนั้นใช้ชื่อว่า "แยกบ้านเก่า" สถานีตำรวจภูธรพานตั้งอยู่ติดถนนพหลโยธิน (สายเก่า) สำหรับถนนพหลโยธินสายใหม่นั้นเป็นถนนเลี่ยงเมืองที่จัดทำไว้เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่สัญจรไปมาไม่ต้องเดินทางเข้าไปในตัวเมืองแต่ก็ยังคงมีถนนสายเก่าใช้อยู่ เมื่อท่านถึงจุดหกแยกนี้ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปตรงจุดนั้น (ในกรณีที่ท่านเดินทางมาจากด้านทิศเหนือหรือจากจังหวัดเชียงรายให้เลี้ยวขวา) แล้วขับรถผ่านตลาดเทศบาลตำบลเมืองพานระยะทางประมาณ ๑.๕ กิโลเมตรก็จะพบจุดสิ้นสุดของตลาด จากจุดสิ้นสุดของตลาดประมาณ ๕๐ เมตรจะพบสถานีตำรวจของเราตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของถนนสายนี้ ท่านสามารถไปติดต่อหรือขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของเราได้ตลอด ๒๔ ชั่วโมง

๒. จุดแยกร้องหลอด



จุดแยกร้องหลอดอยู่บนถนนพหลโยธินเช่นเดียวกันอยู่ห่างจากจุดหกแยกอำเภอพานไปทางทิศเหนือ (จังหวัดเชียงราย) ประมาณ ๑ กิโลเมตร บริเวณนี้เป็นจุดที่มีสัญญาณไฟจราจรอีกจุดหนึ่งและมีป้ายที่กรมทางหลวงติดไว้ที่เกาะกลางถนนด้วยคำว่า "แยกร้องหลอด" ท่านสามารถเดินทางติดต่อกับเราตรงจุดนี้ได้เช่นเดียวกัน เมื่อถึงจุดนี้สถานีตำรวจของเราจะอยู่ทางทิศตะวันตก ในกรณีที่ท่านเดินทางมาจากด้านทิศใต้หรือจังหวัดพะเยาให้เลี้ยวซ้าย แต่หากท่านเดินทางมาจากทิศเหนือหรือจังหวัดเชียงรายให้เลี้ยวขวาไปตามถนนจากจุดนี้แล้วขับรถตรงไปประมาณ ๕๐๐ เมตรจะพบจุดตัดซึ่งเป็นทางสามแยกระหว่างถนนที่ขับรถอยู่กับถนนพหลโยธินสายเก่า ณ จุดสามแยกนี้จะพบสถานีตำรวจของเราอยู่ทางขวามือของท่าน

๓. จุดสามแยกชัยมงคล



จุดสามแยกชัยมงคลอยู่บนถนนพหลโยธินอีกเช่นกันอยู่ห่างจากจุดห้าแยกร้องหลอดไปทางทิศเหนือ (จังหวัดเชียงราย) ประมาณ ๑.๕ กิโลเมตร เป็นจุดสุดท้ายที่จะเข้าไปติดต่อกับสถานีตำรวจของเรา(เฉพาะจากจุดบนถนนพหลโยธินสายใหม่)ถ้านับจากเขตติดต่อพาน-พะเยาและเป็นจุดแรกในลักษณะเดียวกัน ถ้านับจากเขตติดต่ออำเภอพาน-เชียงราย (จากเขตติดต่ออำเภอแม่ลาว) ณ จุดจุดนี้ทางทิศตะวันตกท่านจะพบวัดชัยมงคลซึ่งเป็นวัดใหญ่ตั้งอยู่ รวมทั้งจะเห็นป้ายที่กรมทางหลวงติดตั้งไว้ชื่อ "แยกชัยมงคล" ดังภาพ เมื่อถึงจุดนี้ถ้ามาจากทางทิศใต้ให้เลี้ยวซ้าย แต่ถ้าหากมาทางด้านทิศเหนือให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถไปตามถนนซึ่งเป็นถนนพหลโยธินสายเก่าประมาณ ๒.๕ กิโลเมตรจะพบที่ว่าการอำเภอพานอยู่ทางทิศตะวันตก ถัดจากที่ว่าการอำเภอพานไปทางทิศตะวันออกเล็กน้อยจะพบสถานีตำรวจของเราอยู่ตรงนี้

สำหรับจุดอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ถ้าท่านไม่ทราบที่ตั้งของเราและต้องการเดินทางไปติดต่อ ผมขอแนะนำว่าหากท่านขับรถมาตามถนนพหลโยธินนั้นท่านสามารถสอบถามหน่วยบริการประชาชนหรือตู้ยามของเราซึ่งมีอยู่ถึง ๕ ตู้ยามซึ่งประกอบด้วยหน่วยบริการประชาชนตำบลแม่เย็น , ม่วงคำ , เจริญเมือง , ทรายขาว และตำบลธารทองได้อีกส่วนหนึ่ง สถานีตำรวจของเราได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ท่านตลอด ๒๔ ชั่วโมง อีกประการหนึ่งเพื่อความสะดวกสถานีตำรวจของเราได้จัดทำป้ายบอกเส้นทางไว้เป็นระยะๆ ซึ่งท่านสามารถพบเห็นได้ตามจุดสำคัญๆ


แต่อย่างไรก็ตามเพื่อความสะดวกที่สุดสำหรับท่าน ท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับเส้นทางรวมไปถึงเรื่องอื่นๆ ได้ทางโทรศัพท์ โดยสถานีตำรวจของเรามีโทรศัพท์จำนวน ๒ หมายเลขไว้บริการคือหมายเลข ๐๕๓-๗๒๑๕๑๕ ที่เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จะเป็นผู้รับและหมายเลข ๐๕๓-๗๒๑๑๙๑ ซึ่งพนักงานวิทยุสื่อสารจะเป็นผู้รับ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคำแนะนำนี้คงจะเกิดประโยชน์ต่อท่านบ้างตามสมควร แล้วอย่าลืมไปเยี่ยมเยียนพวกเราบ้างก็แล้วกันนะครับ ตำรวจเมืองพานน่ารักทุกคน

เหตุด่วน เหตุร้าย หมุนไป ๑๙๑ หรือ ๐๕๓-๗๒๑๑๙๑ , ๐๕๓-๗๒๑๕๑๕

ตำรวจเมืองพานพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนตลอด ๒๔ ชั่วโมง

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับ

ที่หน่วยบริการประชาชนตำบลแม่เย็น (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓)

เวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น.ของวันนี้ผมเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยบริการประชาชนตำบลแม่เย็นตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายเหมือนเดิมหลังจากสะสางงานต่างๆ ที่โรงพักเสร็จสิ้นแล้วเมื่อช่วงบ่ายแก่ๆ ก็เป็นสิ่งที่สนุกและท้าทายดีครับงานหลายด้านซึ่งแต่ละด้านก็ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญทั้งนั้น ยิ่งได้ทำงานที่ตนเองรักและชอบแบบนี้ด้วยแล้วสนุกดีครับ

ที่ตู้ยามแม่เย็นเมื่อไปถึงนั้นสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่พอสมควรโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านทิศตะวันตกเมฆค่อนข้างจะเยอะสักหน่อยไม่แน่ใจว่าคืนนี้ฝนจะตกลงมาหรือเปล่า ยิ่งช่วงเวลาที่ผมกำลังบันทึกข้อมูลนี้ด้วยแล้วครึ้มฟ้าครึ้มฝนมากกว่าเดิม สำหรับยวดยานพาหนะที่ผ่านไปมาหน้าตู้ยามวันนี้ค่อนข้างน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นพี่น้องที่เดินทางกลับบ้านหลังจากเสร็จสิ้นจากภาระหน้าที่การงานประจำวัน ก็อยากจะฝากไว้ด้วยว่าเดินทางไปไหนมาไหนโปรดใช้ความระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษเพราะโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุนั้นมีได้ทุกเวลาและทุกสถานที่ สำคัญที่สุดก็คือกฎจราจรจรครับ อยากให้พี่น้องทุกคนยึดถือและเคารพรวมถึงปฏิบัติตามป้าย เครื่องหมายสัญญาณที่จัดทำไว้อย่างเคร่งครัดด้วย

การมาปฏิบัติหน้าที่ที่ตู้ยามแม่เย็นเย็นนี้คงจะเป็นเรื่องการให้บริการพี่น้องประชาชนเสียมากกว่า สำหรับการตั้งจุดตรวจนั้นวันนี้เป็นเวลาอื่นครับซึ่งทุกวันจะไม่ตรงกัน สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป บางวันก็เป็นช่วงกลางวัน บางวันก็หัวค่ำ บางคืนก็ดึก แต่อย่างไรก็ตามหากพวกเราตั้งจุดตรวจก็ขอความร่วมมือมายังพี่น้องทุกคนโปรดให้ความร่วมมือกับพวกเราและในขณะเดียวกันพวกเราก็ขออภัยในความไม่สะดวกมายังทุกท่านเป็นอย่างสูงด้วยครับ

<< ภาพประกอบ (๕ ภาพ) >>

<< เพิ่มเติมครับ : ขอนำภาพบรรยากาศช่วงที่ฝนกำลังตกปรอยๆ ที่ตู้ยามแม่เย็นเย็นนี้มาฝากเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่ง ภาพเป็นอย่างไรคลิกที่นี่เลยครับ >>

การให้ความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๓)

งานในหน้าที่ของผมซึ่งเป็น สวป.หรือคำเต็มว่า "สารวัตรป้องกันปราบปราม" นั้นมีหลายอย่างเลยทีเดียวครับ นอกจากจะปกครองบังคับบัญชาดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาตามระเบียบที่กำหนดแล้วที่ขาดเสียมิได้และถือว่าสำคัญมากๆ ก็คือการให้ความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชน ซึ่งเท่าที่ผมทำมาก็มีหลายอย่างไม่ว่าเป็นการจัดรายการวิทยุชุมชน



การให้ความรู้แก่นักเรียนในโรงเรียนหรือพี่น้องประชาชนตามสถานที่ต่างๆ



รวมถึงการพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนโดยขณะเดียวกันก็ให้คำแนะนำเรื่องที่สำคัญๆ และจำเป็นแก่พี่น้องไปในตัวด้วย เช่น การป้องกันอาชญากรรมเบื้องต้น,การป้องกันอัคคีภัย,การระวังเล่เหลียมหรือการหลอกลวงของคนร้าย เป็นต้นแล้ว



อีกอย่างหนึ่งที่ได้ดำเนินการอยู่เป็นประจำก็คือการนำเอกสารที่เกี่ยวกับความรู้ต่างๆ ทั้งในส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานอื่นๆ จัดทำไว้ให้รวมถึงการจัดทำกันเองของพวกเราออกเผยแพร่แจกจ่ายให้แก่พี่น้อง โดยผมมีความคิดอยู่ว่าการพบปะพูดคุยและแนะนำด้วยวาจานั้นอาจจะได้ผลในเพียงช่วงแรกๆ นานวันเข้าพี่น้องอาจจะหลงลืมก็ได้จึงได้เสริมในส่วนนี้ขึ้นมาอีกส่วนหนึ่ง อย่างเช่นการออกแจกจ่ายเอกสารแผ่นพับความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษแก่พี่น้องประชาชนตามที่ต่างๆ เพื่อให้พี่น้องมีความรู้ความเข้าใจถึงโทษ พิษภัย และวิธีการป้องกันมิให้ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดตามนโยบายการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งผมเคยนำภาพและเรื่องราวในส่วนนี้เสนอในบล็อกนี้มาบ้างแล้ว



สำหรับเอกสารแผ่นพับที่แจกจ่ายแก่พี่น้องในด้านที่เกี่ยวกับยาเสพติดตั้นเป็นของกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดเรื่อง "๑๐ ข้อความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด" ที่จัดทำและส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเผยแพร่แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งมีหัวข้อดังนี้
๑. ยาเสพติดคืออะไร
๒. การใช้ยาเสพติดมีอันตรายอย่างไร
๓. จะสังเกตอาการผู้ติดยาเสพติดได้อย่างไร
๔. จะสังเกตอาการคนเมายาบ้าได้อย่างไร
๕. ถ้าบุตรหลานหรือบุคคลในครอบครัวของท่านติดยาเสพติดควรทำอย่างไร
๖. หากผู้ปกครองปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานเสพยาเสพติดให้โทษ ผู้ปกครองมีความผิดหรือไม่
๗. ท่านหรือบุตรหลานของท่านไม่ยินยอมให้ตรวจปัสสาวะได้หรือไม่ และมีโทษหรือไม่ อย่างไร
๘. สถานประกอบการประเภทใดที่อยู่ภายใต้บังคับกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดและต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างไร
๙. หากพบการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานประกอบการ เจ้าของสถานประกอบการมีความรับผิดตามกฎหมายยาเสพติดหรือไม่ อย่างไร
๑๐. ประชาชนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหายาเสพติดได้อย่างไร



การแจกจ่ายเอกสารแผ่นพับครั้งนี้นอกจากจะพูดคุยกับพี่น้องถึงเรื่องราวต่างๆ ในเอกสารแล้วยังได้แนะนำและนำความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติดที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.พาน เช่น ประเภทของยาเสพติดที่มีการระบาดมาก,สาเหตุถึงการติดยาเสพติด,วิธีการป้องกัน,การดำเนินการของตำรวจ สภ.พานของเราเกี่ยวกับยาเสพติด เป็นต้นให้พี่น้องรับทราบอีกส่วนหนึ่งด้วย ซึ่งก็ต้องขอขอบพระคุณกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่อนุเคราะห์เอกสารแผ่นพับอันมีค่ายิ่งนี้แก่เรามา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างสูงด้วยครับ นอกจากนี้ผมยังได้เคยนำเอกสารความรู้ความเข้าใจด้านอื่นๆ แจกจ่ายให้กับพี่น้องด้วยซึ่งผมจะบอกจะเล่าให้ทราบในภายหลังนะครับว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรบ้าง

ผมฝากพี่น้องว่าหากมีเวลาก็ช่วยอ่านๆ กันด้วยแม้วันละนิดก็ยังดี จะอ่านเองหรือให้ลูกหลานรวมถึงคนอื่นอ่านด้วยก็ได้เพราะอย่างน้อยก็น่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจและเกิดประโยชน์อยู่บ้างตามสมควร ยิ่งหากพี่น้องมีความรู้ความเข้าใจและรู้เท่าทันคนร้ายมากเพียงใดพี่น้องก็จะมีความปลอดภัย สังคมจะมีความสุขมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

การให้ความรู้ความเข้าใจแก่พี่น้องนี้ผมจะทำตลอดไปและทำอย่างเต็มความสามารถเท่าที่คนคนหนึ่งจะพึงทำได้

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีครับผม