วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ตำรวจโดนโบย (๒๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓)

สายัณห์สวัสดิ์ทุกท่าน พ.ต.ท.สุพจน์ มัจฉา ครับผม

ขณะปั่นต้นฉบับอยู่นี้เพลาใกล้ๆ หกโมงเย็น ผินหน้าไปเบื้องประจิมทิศ เอ้อ พระสุริยันกำลังยอแสง อากาศเริ่มเย็น ใกล้อัสดงเต็มที นี่ถ้าเป็นอดีตกาลที่ผ่านมามวลหมู่วิหคนกกาคงจะร่อนถลาแลโผผินออกจากแหล่งหากินโบยบินเข้าสู่รวงรังกันแล้วเป็นแม่นมั่น สายัณห์สมัยแล้วหรือนี่ เฮ้อ เพลาจะหมดไปอีกวัน ๑ แล้ว

แต่...วันเวลาที่ล่วงพ้นไปก็เป็นเรื่องเป็นธรรมดาหาอาจมีใครห้ามได้ไม่ ส่วนคนเราซิ่จะใช้เวลานี้ให้เกิดประโยชน์ที่สุดได้เยี่ยงไรน่้าตรองอยู่มิใช่น้อยเหมือนกัน อ้า แล้วจะทำไฉน เย็นนี้ที่ตู้ยามแม่เย็นก็มิได้ตั้งจุดตรวจซะด้วย แต่เราก็ต้องมานั่งอยู่ ณ ที่แห่งนี้เพื่อให้บริการพี่น้องอันเปนที่รักยิ่งของเราด้วยความภูมิใจในอาชีพ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" แลเพลานี้ยังมิมีพี่น้องมาพบมาหา จะปล่อยเพลาให้สูญไปโดยเปล่าประโยชน์กระนั้นฦา หาใช่ไม่ ฉะนั้นแล้วจำเราต้องใช่เพลานี้ให้ดูมีคุณค่าสักหน่อย แล้วจะทำให้เยี่ยงไร ตรองออกแล้ว กระไรรึท่าน?? อ๋อ ก็ต้องเอาเรื่องราวของตำรวจไทยมาเล่าให้ฟังนั่นแล

แหม ขึ้นต้นด้วยสำบัดสำนวนพ้นสมัยเสียนี่กระไรนะเรา ไม่ใช่อะไรหรอกครับที่ต้องขึ้นต้นแบบนั้นก็เพราะว่าเรื่องที่จะนำมาเล่าให้ฟังเย็นนี้น่่ะเป็นเรื่องราวในอดีตของตำรวจเราที่หลายท่านอาจจะหาอ่านที่ไหนไม่ได้และก็ไม่มีใครเขียนถึงนั่้นเอง เย็นนี้ผมจะนำเรื่องการลงโทษของตำรวจไทยเมื่อครั้งก่อนมาบอกนะครับว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง

ท่านที่รักครับ คนเราเมื่ออยู่รวมกันมากก็ต้องมีบ้างที่ใครซักคนสองคนสามคนอาจประพฤตินอกลู่นอกแนวไปจากคนอื่นๆ คนที่ประพฤติแบบนั้นถ้าจะให้หลาบจำก็ต้องมีการลงโทษลงทัณฑ์กันเป็นธรรมดา การลงโทษนั้นก็มีอยู่หลายอย่างหลายสถานด้วยกันตามที่จะมีการกำหนดไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แล้วทีนี้ตำรวจของเราสมัยก่อนเขาทำการลงโทษกันอย่างไร

ขอบอกก่อนนะครับว่าข้อเขียนของผมนั้นทุกอย่างต้องมีหลักฐาน(ทางราชการ)อ้างอิงด้วยเพราะจะได้ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ว่าเขียนขึ้นมาเอง คิดขึ้นมาเองหรือเปล่า แล้วหลักฐานที่จะนำมาอ้างอิงก็เหมือนเดิม "ราชกิจจานุเบกษา" นั่นแหละ การค้นหาเรื่องราวในราชกิจจาฯ สมัยก่อนค่อนข้างยุ่งยากลำบาก แต่เดี๋ยวนี้สบายมากเพราะเราสามารถ search ทาง Internet ได้ แป๊บเดียวเองเรื่องที่ต้องการถ้ามีก็เจอ นี่ก็เหมือนกันครับการลงโทษตำรวจสมัยก่อนนี่ผมก็หาจากที่นี่นั่นเอง แล้วการลงโทษเนี่ยะัสมัยนั้นเขามีการโบยกันด้วยนะขอรับ เชื่อหรือไม่ ซึ่งก็คือที่มาของจั่วหัวเรื่องเย็นนี้ "ตำรวจโดนโบย" การโบยเขาโบยแบบไหนและเรื่องราวเป็นอย่างไรตามผมมาเลยครับ

ในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๒๐ ซึ่งตีพิมพ์ (ประกาศ) เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ร.ศ.๑๒๒ เรื่อง "ข้อบังคับว่าด้วยอำนาจแลกำหนดสำหรับลงโทษตำรวจภูธร" กำหนดไว้ตอนหนึ่งว่า
"ข้อ ๒ ลักษณ (สะกดตามที่ประกาศ) ความผิดด้วยข้อบังคับของตำรวจภูธรนั้น ดังนี้
(๑) เกียจคร้านแลเลินเล่อต่อน่าที่ราชการ
(๒) เมาสุราแลเครื่องดองของเมาต่างๆ
(๓) ประพฤติกิริยาแลวาจาชั่ว
(๔) กระทำการทุราจาร
(๕) ดื้อต่อผู้ใหญ่"

ทีนี้ถ้าตำรวจคนไหนกระทำผิดวินัยจะมีการลงโทษกันอย่างไร เรื่องนี้มีประกาศไว้ในราชกิจจาฯฉบับเดียวกันข้อ ๔ ดังนี้ครับ
"ข้อ ๔ ตำรวจภูธรคนใดกระทำความผิดด้วยข้อบังคับของตำรวจภูธรดังกล่าวแล้วในข้อ ๒ จะมีโทษได้ตามประเภทดังกล่าวต่อไปนี้
(๑) โบย (คืิอโบยที่ขาด้วยไม้หรือหวาย)
(๒) จำขัง (คือจำตรวน ขังตราง)
(๓) ขังเดี่ยว (คือขังในที่ควบคุมแต่ฉเภาะตัวคนเดียว)
(๔) ขังรวม (คือขังในที่ควบคุมรวมมากคนด้วยกัน)
(๕) กักยาม (คือกักตัวไว้ไม่ให้ออกพ้นไปจากเขตร์ตามที่จะกำหนดให้)
(๖) ภาคทัณฑ์ (คือแสดงความผิดของผู้ที่ทำผิดแลภาคทัณฑ์โทษไว้)"

นี่แหละครับจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าตำรวจสมัยก่อนน่ะมีการลงโทษทางวินัยโดยการโบยด้วยแหละแล้วคงจะโดนหลายคนและหลาบจำไปนานเลยทีเดียวซึ่งก็เป็นการลงโทษลงทัณฑ์ตามยุคตามสมัยน่ะครับแต่ตอนนี้ไม่มีแล้วแม้กระทั่งนักเรียนที่ครูจะโบยจะเฆี่ยนศิษย์ไม่ได้จนทำให้เด็กๆ หลายคนกลายเป็นแบบที่ท่านๆ ได้เห็นได้รู้กันในปัจจุบันนี้

เอ้อ แล้วการโบยตำรวจที่ว่าไม่มีแล้วน่ะเขายกเลิกมาตั้งแต่ตอนไหนผมจะเล่าให้ฟังต่อครับ

การยกเลิกโทษโบยตำรวจนี้มีขึ้นเมื่อสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ครับโดยมีัหลักฐานจากราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๓๗ เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๖๓ ซึ่งมีข้อความตอนหนึ่งดังนี้

"...บัดนี้ทรงพระราชดำริห์เห็นว่าอาญาโบยเปนอาญาอันต่ำช้าซึ่งไม่ควรใช้ในการรักษาวินัยแก่ตำรวจพระนครบาลและตำรวจภูธรสืบไป จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกอาญาโบยแก่ตำรวจพระนครบาลและตำรวจภูธร ตามความในกฏว่าด้วยอาญาฐา่นละเมิดวินัยตำรวจพระนครบาลและตำรวจภูธรมาตรา ๒ ข้อ ๑๒ , ๑๓ นั้นเสีย..."

ราชกิจจาฯ ฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓ เป็นต้นไป

แล้วตั้งแต่นั้นจนถึงบัดนี้การลงโทษตำรวจที่กระทำผิดทางวินัยจึงไม่มีการโบยอีกเลย

ครับ นั่นก็คือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของตำรวจไทยที่ผมนำมาเล่าให้ฟังตอนเย็นวันนี้

รักตำรวจ เกลียดตำรวจ มีปัญหาอย่าลืมเรียกใช้ตำรวจนะครับ

สวัสดีึครับผม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น